ซี้ดดด...ฟิตขนาดนี้ ผมก็หลงรักของแม่แล้ว คืนนี้จะทำให้สุดๆ ไปเลย
ใครจะไปคิดว่าผลไม้ต้องห้ามที่หอมหวานและเย้ายวนที่สุด จะมาสุกงอมอยู่ใต้ชายคาบ้านของผมเอง...
เสียงเครื่องยนต์ของรถเก๋งคันเก่าดังกระหึ่มในความเงียบของค่ำคืน มันเป็นเสียงเดียวที่ปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางสาดส่องเข้ามาเป็นระยะๆ เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนล้าของภรรยาผม ‘นลิน’ ที่หลับพิงอยู่กับเบาะข้างคนขับ ศีรษะของเธอเอนซบไปกับกระจกอย่างหมดแรง ในอ้อมแขนของเธอยังมีเจ้าตัวเล็ก ลูกชายวัยขวบเศษของเราที่หลับสนิทไม่ต่างกัน ภาพนั้นควรจะทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แต่ในส่วนลึกที่สุดของความคิด ผมกลับรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ
สายตาผมเหลือบมองกระจกหลัง ภาพที่สะท้อนกลับมาคือ ‘คุณแม่กานดา’ แม่ยายของผมเอง เธอนั่งนิ่งๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่นั้นยังคงมีความสดใสแม้จะผ่านโลกมานานกว่าห้าสิบปี แสงไฟที่สาดเข้ามาขับเน้นให้เห็นโครงหน้าที่ยังคงความสวยคมของคนสมัยก่อน ผิวพรรณที่ดูแลเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือเรือนร่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดผ้าไหมเรียบๆ นั้น...มันช่างดูสมส่วนและอวบอิ่มเกินกว่าวัยของเธอไปมาก
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความคิดบ้าๆ วิ่งวนอยู่ในหัวผมมาตลอดทางตั้งแต่เราออกจากโรงแรมที่ต่างจังหวัด เราไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัว แต่ดูเหมือนการพักผ่อนครั้งนี้จะจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวผมขึ้นมา...บางอย่างที่อันตรายและไม่สมควร
เราเลี้ยวรถเข้าซอยบ้าน บรรยากาศที่คุ้นเคยน่าจะทำให้ผมสบายใจ แต่เปล่าเลย หัวใจผมเต้นแรงขึ้นทุกขณะจิต ผมจอดรถสนิทหน้าบ้าน ความเงียบเข้าครอบงำชั่วครู่ ก่อนที่คุณแม่กานดาจะเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนั้น
“เดี๋ยวแม่ช่วยอุ้มหลานเองจ้ะภพ นลินคงเพลียมากแล้ว” น้ำเสียงของท่านนุ่มนวลและเต็มไปด้วยความเมตตาเสมอ
ผมนิ่งไปชั่วครู่ “ครับแม่”
เราสามคนช่วยกันหอบหิ้วสัมภาระและประคองกันเข้าบ้าน นลินดูเหมือนจะไม่มีแรงแม้แต่จะยืนให้ตรง เธอแทบจะทิ้งตัวลงบนโซฟาทันทีที่เข้ามาในบ้านได้ สีหน้าซีดเซียวและตัวที่รุมๆ เหมือนจะมีไข้
“นลินไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะลูก เดี๋ยวทางนี้แม่กับตาภพจัดการเอง” คุณแม่กานดาพูดพร้อมกับใช้หลังมืออังหน้าผากลูกสาวเบาๆ
“ขอบคุณค่ะแม่” นลินตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะลุกเดินโผเผเข้าห้องนอนไป
เมื่อประตูปิดลง ในห้องนั่งเล่นก็เหลือเพียงผมกับแม่ยาย และเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเจ้าตัวเล็กที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของท่าน ความเงียบครั้งนี้มันต่างออกไป มันอึดอัดและเต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักล่าที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อ แต่เหยื่อตรงหน้าคือแม่ของภรรยาตัวเอง...ความคิดนี้ทำให้ผมรู้สึกสมเพชตัวเองจับใจ
“ภพ...ไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ เหงื่อออกเต็มเลย” ท่านพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าผม สายตายังคงจดจ่ออยู่ที่ใบหน้าของหลานชาย
“เอ่อ...เดี๋ยวผมจัดการของพวกนี้ก่อนดีกว่าครับแม่ แม่พาน้องไปนอนก่อนเลย” ผมตอบเสียงตะกุกตะกัก พยายามหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
คืนนี้แม่ของผมไม่อยู่ ไปค้างบ้านญาติ ทำให้บ้านทั้งหลังมีแค่เราสามคนกับอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ตามปกติแล้วคุณแม่กานดาจะนอนอีกห้องหนึ่ง แต่นลินเคยเปรยๆ ไว้ว่าถ้าเธอไม่สบาย อยากให้แม่มานอนเป็นเพื่อนในห้องใหญ่ด้วยกัน เผื่อตอนดึกๆ ลูกร้องจะได้มีคนช่วย
และคืนนี้...มันก็เป็นไปตามนั้น
กว่าผมจะจัดการทุกอย่างเสร็จและพาร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะไปอาบน้ำ เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมนุ่งแค่กางเกงฟุตบอลขาสั้นตัวเดียว ไม่ได้ใส่เสื้อ เดินย่องเข้ามาในห้องนอนอย่างแผ่วเบาที่สุด แสงไฟสีนวลจากโคมไฟหัวเตียงเปิดหรี่ไว้พอให้มองเห็นลางๆ
ภาพที่เห็นทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้น...
บนเตียงขนาดคิงไซส์ นลินนอนหลับสนิทอยู่ฝั่งหนึ่ง โดยมีลูกชายนอนอยู่ตรงกลาง แต่ที่ฝั่งติดกับผม...คือร่างของคุณแม่กานดา ท่านนอนตะแคงหันข้างมาทางผมเล็กน้อย ชุดที่ท่านใส่คือเสื้อกล้ามสีขาวบางๆ กับผ้าถุงลายดอกสีเข้ม แสงไฟที่สาดส่องลงมาทำให้ผมเห็นส่วนโค้งเว้าของสะโพกผายใหญ่ภายใต้เนื้อผ้าได้อย่างชัดเจน มันเป็นภาพที่ดูบ้านๆ แต่กลับปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวผมได้อย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คำถามเดียวที่ดังก้องอยู่ในหัวผมตอนนั้นคือ...ข้างในผ้าถุงผืนนั้น...ท่านใส่อะไรไว้หรือเปล่า?
ผมค่อยๆ ล้มตัวลงนอนบนที่นอนข้างๆ ท่านอย่างเบามือที่สุด กลิ่นแป้งเย็นอ่อนๆ และกลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ของท่านลอยมาแตะจมูก มันเป็นกลิ่นของความสะอาดสะอ้านและกลิ่นของผู้ใหญ่ที่น่าเกรงขาม แต่วินาทีนี้มันกลับกลายเป็นกลิ่นที่ยั่วยวนผมที่สุดในโลก
ผมหลับตาลง พยายามข่มใจให้นอน แต่ภาพสะโพกกลมกลึงนั้นยังคงติดตา หัวใจผมเต้นระรัวเหมือนกลองศึก ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน อาจจะแค่สิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมง ผมอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น จนกระทั่งผมรู้สึกได้ถึงการขยับตัวเบาๆ ข้างๆ
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ...ที่นอนข้างผมว่างเปล่า!
ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งทันที สอดส่ายสายตามองไปรอบห้องที่มืดสลัว ในใจก็คิดว่าท่านคงไปเข้าห้องน้ำ ผมรออยู่ครู่หนึ่ง...แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าท่านจะกลับมา ความคิดชั่วร้ายแล่นปราดเข้ามาในสมอง ผมค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง เท้าเปล่าสัมผัสกับพื้นไม้เย็นเฉียบ เดินย่องตามสัญชาตญาณไปยังห้องน้ำที่อยู่นอกห้องนอน
แล้วผมก็เห็นมัน...แสงไฟสีขาวลอดออกมาจากใต้ประตูห้องน้ำ
ท่านอยู่ในนั้นจริงๆ!
ผมยืนนิ่งอยู่หน้าประตู หัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ในหัวมีเสียงสองเสียงเถียงกัน เสียงหนึ่งบอกให้ผมกลับไปนอนซะ อย่าหาเรื่องใส่ตัว แต่อีกเสียงหนึ่งมันกรีดร้อง กู่ก้องให้ผมเปิดประตูเข้าไป...
มือผมสั่นเทา ผมเอื้อมไปจับลูกบิดประตูที่เย็นเฉียบ มันไม่ได้ล็อก... ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตัดสินใจบิดมันช้าๆ...
แกร๊ก...
ผมแง้มประตูออกเล็กน้อย ภาพที่เห็นผ่านช่องแคบๆ นั้นทำให้เลือดในกายผมสูบฉีดจนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว...
คุณแม่กานดายืนหันข้างให้ประตู ท่านอยู่ในสภาพท่อนล่างเปลือยเปล่า! ผ้าถุงลายดอกกองอยู่กับพื้นที่ข้อเท้า เผยให้เห็นสะโพกขนาดใหญ่และบั้นท้ายกลมกลึงที่ขาวเนียนภายใต้แสงไฟ มือข้างหนึ่งของท่านกำลังบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่มของตัวเองผ่านเสื้อกล้าม ส่วนมืออีกข้าง...กำลังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณหว่างขา ใบหน้าของท่านบิดเบี้ยว แหงนมองเพดาน ริมฝีปากเผยอออก ส่งเสียงครางแผ่วเบาในลำคอ
ผมทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมผลักประตูเข้าไปจนสุด!
“อ๊ะ!” ท่านสะดุ้งสุดตัว หันขวับมามองผมด้วยแววตาตื่นตระหนก มือไม้รีบคว้าผ้าถุงขึ้นมาปิดบังร่างกายท่อนล่างอย่างลนลาน
“เข้ามาทำไม...ภพ! ออกไป...ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงของท่านสั่นเครือ แต่ก็พยายามกดให้เบาที่สุด
ผมไม่ตอบ แต่ก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูลงกลอนเบาๆ สายตาของผมจับจ้องอยู่ที่ท่านไม่วางตา “แม่...ทำอะไรอยู่ครับ” ผมถามเสียงพร่า
“เบาๆ สิ...เดี๋ยวก็ได้ยินกันหมดหรอก” ท่านพูดพลางขยับถอยหลังจนแผ่นหลังชิดกับผนังห้องน้ำเย็นเฉียบ
“แล้ว...ทำไมแม่ไม่ใส่กางเกงในล่ะครับ” ผมถามคำถามโง่ๆ ออกไป แต่ใจผมมันอยากรู้จริงๆ
“โอย...นายนี่! จะถามอะไรนักหนา” ท่านตวัดสายตาค้อนผม แต่ในแววตานั้นมันไม่ได้มีแต่ความโกรธ ผมเห็นความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ลึกๆ เห็นประกายไฟที่กำลังลุกโชนขึ้นมา
ผมไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยไป ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้าวเข้าไปประชิดตัวท่านแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าทันที ท่านผงะเล็กน้อย แต่ไม่ได้ขัดขืน ผมดึงมือที่กำผ้าถุงไว้ออก แล้วรั้งผ้าผืนนั้นลงไปกองที่พื้นอีกครั้ง
ภาพตรงหน้าทำให้ผมแทบคลั่ง...เนินเนื้อที่อวบอูม โหนกนูนจนแทบจะปิดชิดสนิทกัน มันดูสมบูรณ์แบบและทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจ ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน แม้แต่กับนลิน...ของลูกสาวเทียบไม่ได้เลยกับความยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่
ผมไม่ลังเลที่จะใช้ริมฝีปากและลิ้นของผมสัมผัสกับมัน...
“อูยยย...ภพ...อย่า...อ๊า...เสียว...เสียวเหลือเกิน...ทำไมนาย...เก่งแบบนี้นะ” เสียงครางของท่านหลุดรอดออกมาเป็นห้วงๆ มือของท่านขยุ้มกลุ่มผมของผมไว้แน่นเพื่อระบายความซ่านเสียว
“ก็ของแม่มันทั้งใหญ่ทั้งนูนขนาดนี้ ใครจะอดใจไหวล่ะครับ” ผมพูดแทรกจังหวะการใช้ลิ้น
“นี่...จะว่าของฉันมันไม่ฟิตหรือไง...ห๊ะ!” ท่านแหวใส่ผมเบาๆ
“ไม่ใช่แบบนั้นครับแม่...มา...เรามาเปลี่ยนท่ากันดีกว่า” ผมรีบตัดบท กลัวจะเสียบรรยากาศ ผมค่อยๆ ประคองร่างที่เริ่มอ่อนระทวยของท่านให้นอนลงกับพื้นห้องน้ำที่ปูด้วยเสื่อยางกันลื่น ท่านชันเข่าขึ้นโดยอัตโนมัติราวกับรู้ใจผม ขาที่เรียวสวยแม้จะมีอายุแล้วค่อยๆ แยกออกจากกันช้าๆ เผยให้เห็นภาพสวรรค์ที่ซ่อนเร้นอยู่
ผมนั่งจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง...มันเป็นภาพที่ผมจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต ผมก้มหน้าลงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้รุนแรงและดูดดื่มกว่าเดิม ลิ้นของผมทำงานอย่างบ้าคลั่ง สอดแทรกเข้าไปในทุกซอกทุกมุม ร่างของท่านบิดเร่า แอ่นสะโพกขึ้นรับสัมผัสจากผมอย่างลืมตัว
“ภพ...ไปดูนลินหรือยังลูก...เขาตื่นหรือเปล่า” ท่านถามเสียงสั่นพร่า เหมือนพยายามดึงสติกลับมา
“หลับสนิทเลยครับแม่...ไม่ต้องห่วง” ผมเงยหน้าขึ้นมาตอบ “แม่สวยมากนะครับ สวยจนผมทนไม่ไหวจริงๆ ขนาดใส่แค่ผ้าถุงยังเซ็กซี่ขนาดนี้”
“อูวว...ไม่ต้องมาปากหวานเลย...เร็วๆ...ทำฉันที...ทำฉันแรงๆ เท่าที่นายต้องการเลย” คำพูดของท่านเหมือนเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่ราดลงบนกองเพลิง
“ได้เลยครับแม่...แต่ก่อนอื่น...แม่ต้องชิมของผมก่อน” ผมพูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วฉุดร่างท่านให้ลุกขึ้นนั่งพิงผนัง
แววตาของท่านเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นความเป็นชายของผมที่แข็งขืนจนปวดหนึบ มันตั้งตรงชี้หน้าท่านราวกับท้าทาย ท่านยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ก่อนจะใช้มือที่นุ่มนวลนั้นคว้าหมับเข้าที่แกนกลางลำตัวของผมแล้วเริ่มรูดรั้งเบาๆ ไม่กี่ครั้ง ท่านก็ก้มหน้าลงมาครอบครองมันด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนของท่านทันที
“อ่าาาห์...แม่ครับ...ซี้ดดด” ผมกัดฟันแน่น แต่ก็ไม่อาจกลั้นเสียงครางแห่งความสุขเอาไว้ได้ เสียงดูดดังจ๊วบจ๊าบก้องอยู่ในห้องน้ำสี่เหลี่ยมแคบๆ นั้น ผมแอ่นสะโพกสวนกลับไปเป็นจังหวะ จนกระทั่งผมทนไม่ไหว
“พอแล้วครับแม่...เดี๋ยวผมจะเสร็จซะก่อน” ผมค่อยๆ ดึงตัวออกมา ท่านเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยแววตาที่ฉ่ำเยิ้ม ริมฝีปากแดงก่ำและมันวาว
ท่านทิ้งตัวลงนอนในท่าเดิมอีกครั้ง แยกขารอผมอย่างเชื้อเชิญ ผมไม่รอช้า แทรกตัวเข้าไปอยู่ระหว่างขาของท่าน จับแก่นกายของตัวเองจ่อเข้าไปที่ปากทางสวรรค์ แล้วค่อยๆ กดมันเข้าไปช้าๆ...ช้าๆ...
“ซี้ดดด...อ๊าาา...ภพ...ใหญ่...ใหญ่เหลือเกิน...โอวว...ลูกเขย...จ๋า” ท่านครางชื่อผมออกมาอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ฟิต...ฟิตมากครับแม่...ซี้ดดด...แน่นไปหมดเลย...ผมรักของแม่จังครับ”
ความคับแน่นที่บีบรัดอยู่รอบตัวตนของผมมันทำให้สมองผมขาวโพลนไปหมด ผมเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ อย่างเนิบนาบ ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ
ปั้บ! ปั้บ! ปั้บ! ปั้บ!
เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องสะท้อนผนังห้องน้ำ ผสมกับเสียงครางของเราสองคน
“อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ...เสียว...ภพ...แรงอีก...เอาอีก...ทำฉันแรงๆ เลยที่รัก!” ท่านร้องขออย่างไม่คิดจะอาย
“จัดให้เลยครับแม่...ซี้ดดด...สุดยอด...เป็นบุญของผมจริงๆ ที่ได้ทำกับแม่แบบนี้” ผมกระซิบข้างหูท่าน สลับกับการพรมจูบไปทั่วใบหน้าและลำคอ เอวของผมทำงานอย่างบ้าคลั่งเหมือนเครื่องจักรที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ผมใกล้แล้ว...ใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว
ปั้บบบ! ปั้บบบ! ปั้บบบ!
ผมเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นอย่างไม่คิดชีวิต เม้มปากแน่นจนเจ็บ เหงื่อไหลโทรมกายราวกับไปวิ่งมาราธอน ในที่สุดผมก็รวบรวมแรงทั้งหมดอัดกระแทกเข้าไปในตัวท่านจนสุดลำ พร้อมกับปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตที่อัดอั้นมานานเข้าไปจนหมดทุกหยาดหย่อน
“อ๊าาาาาห์! แม่ครับ...ผม...ผมแตกแล้ว...แตกในนะครับแม่!” ผมคำรามลั่น
“อ๊ายยยย! มาเลยลูก...แตกเข้ามาเลย...อูยยย...ดีเหลือเกิน...ซี้ดดด” ท่านเกร็งกระตุกรับน้ำอุ่นๆ ของผมเข้าไปในร่างกาย สะโพกยกขึ้นรับอย่างเต็มใจ
เราสองคนนอนกอดก่ายกันหอบหายใจอยู่บนพื้นห้องน้ำนั้นนานหลายนาที ก่อนที่เรี่ยวแรงจะค่อยๆ กลับคืนมา ผมถามท่านเพื่อความแน่ใจในผลงานของตัวเองคืนนี้
“แม่ครับ...ชอบไหมครับที่ผมทำ”
ท่านลูบแก้มผมเบาๆ “ดีมาก...ดีที่สุดเลย...จากนี้ไป นายคือคนโปรดของฉันแล้วนะ”
“จริงเหรอครับ” ผมถามอย่างไม่เชื่อหู
“จริงสิ...นายน่ะมัน...ความต้องการสูง นลินเขารับมือไม่ไหวหรอก ถ้าฉันไม่ช่วยนะ ป่านนี้ลูกสาวฉันคงโทรมแย่ หรือไม่นายก็คงแอบหนีไปเที่ยวข้างนอกแล้ว” ท่านพูดเหมือนรู้ทันความคิดผมทุกอย่าง
“โธ่แม่...ผมก็เป็นแบบนี้กับแม่คนเดียวนี่แหละครับ...ว่าแต่...แม่ใส่ผ้าถุงแบบนี้ก็นอนสบายดีนะครับ...สะดวกดี” ผมแกล้งพูดหยอก
“เหรอ...สะดวกอะไรล่ะ” ท่านหัวเราะเบาๆ “ตอนกลางวันไม่ใส่กางเกงในฉันก็ไม่ชินหรอกนะ มันโล่งๆ แปลกๆ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีจีสตริงสักตัว”
คำว่า ‘จีสตริง’ หลุดออกมาจากปากท่านทำเอาผมหูผึ่ง จินตนาการในหัวผมพุ่งกระฉูดไปไกล ภาพของคุณแม่กานดาในชุดผ้าถุงเรียบๆ แต่ข้างในซ่อนความเร่าร้อนด้วยจีสตริงตัวจิ๋ว...โอ้พระเจ้า...นี่ท่านกำลังยั่วผมทางอ้อมอยู่หรือเปล่า!
ท่านคงไม่รู้ว่าความคิดของผมเตลิดไปถึงไหนแล้ว ท่านลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วหันมาโอบกอดผมอย่างรักใคร่ “ไปเถอะ...กลับไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวใครตื่นมาจะยุ่ง”
เราสองคนย่องกลับเข้าไปในห้องนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นลินกับลูกยังคงหลับสนิท ผมล้มตัวลงนอนข้างๆ ท่านอีกครั้ง แต่คราวนี้ความรู้สึกมันแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง...คืนนี้ ผมไม่ได้มีแค่ภรรยา...แต่เหมือนผมได้ภรรยามาเพิ่มอีกคนอย่างลับๆ และมันเป็นความลับที่จะเปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาล...